Chrome Remote Desktop

Chrome Remote Desktop ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยมือถือมีจริงหรือ…?

                สุนิสา นิลมูล

        สังคมในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีมากมายที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ผู้อ่านรู้สึกไหมคะว่าถ้าเราสามารถควบคุมอะไรสักอย่างด้วยมือถือโดยใช้มือถือในการควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้านจะสะดวกสบายเพียงใดถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่กับอุปกรณ์เหล่านั้นก็ตาม เราก็สามารถบังคับการใช้งานได้ ซึ่งนวัตกรรมนี้เริ่มมีการใช้งานแล้วในปัจจุบันซึ่งเรียกว่าChrome Remote Desktop เป็นโปรแกรมที่ใช้สมาร์ทโฟนควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ในระยะไกลขณะที่ผู้ใช้งานไม่ได้อยู่กับคอมพิวเตอร์หรือต้องการให้ผู้อื่นตรวจดูคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมาตรวจสอบที่คอมพิวเตอร์จริงโดยตรงซึ่งสามารถใช้โปรแกรมนี้ตรวจดูคอมพิวเตอร์แทนจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันโทรศัพท์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น นอกจากจะนำมาใช้ในงานที่เป็นส่วนตัวแล้วยังสามารถนำไปใช้ควบคุมระบบต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

ผู้อ่านเริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าโปรแกรมนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไรและจะมีวิธีการใช้งานอย่างไรบ้างเราไปทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้กันเลยค่ะ^_^

ขั้นตอนในการใช้งาน Chrome Remote Desktop มีดังนี้ คือ

1.  เริ่มต้นที่ตัวคอมพิวเตอร์ ต้องติดตั้งเว็บบราวเซอร์ Chrome บนคอมพิวเตอร์หรือ Notebook ให้เรียบร้อยก่อน หากไม่มี คลิกที่นีเพื่อเข้าไปดาวน์โหลดติดตั้งเลย

          2.  ให้เปิดโปรแกรม Chrome บนคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นเลือก Customize and Control Google Chrome (รูป 3 ขีดตรงแถบ address bar ดังลูกศรชี้หมายเลข 1 จากนั้นเลือก Sign In to Chrome …) แล้วลงชื่อ Google account ให้เรียบร้อย

             3.  จากนั้น ก็ไปติดตั้งปลั๊กอินส่วนเสริม ชื่อ Chrome Remote Desktop คลิกทีนี่เพื่อติดตั้ง

            4.  เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็ทำการเปิดแอพ Chrome Remote Desktop บน Google chrome

           5.  แล้วกด Get Started ที่ Access your own computer from anywhere ดังรูป

            6.  จะปรากฏหน้าต่างตั้งรหัส PIN เป็นตัวเลข 6 ตัว ให้ทำการตั้งรหัสแล้วจำ เพราะรหัสที่ตั้งนี้จะใช้ในเมื่อเราใช้งานแอพ Chrome Remote Desktop ผ่านทางมือถือ Android ด้วย

             7.  คราวนี้ได้เวลาหยิบมือถือ หรือแท็บเล็ตระบบปฏิบัติกา Android ขึ้นมา เปิด Play Store ดาวน์โหลดแอพ ชื่อว่า Chrome Remote Desktop (แตะหรือคลิกที่นี่เพื่อดาว์โหลดแอพ)

                     8.  จากนั้นก็เปิดแอพ Chrome Remote Desktop จะเห็นรูปเครื่องคอมพิวเตอร์…. ถ้าเป็นสีฟ้า แสดงว่าเครื่องเปิดอยู่ ย้ำว่า การควบคุมเครื่องคอมจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนนี้ เครื่องคอมของคุณต้องเปิดอยู่ กดเลือกที่เครื่องคอมที่คุณใช้ แล้วใส่รหัสที่ได้ตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์ไว้ หน้าจอมือถือก็จะปรากฏหน้าจอ เหมือนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

              9.  เมื่อกรอกเสร็จแล้วหากถูกต้อง หน้าจอมือถือก็จะปรากฏหน้าจอ เหมือนบนคอมพิวเตอร์ของคุณเลยทันที คราวนี้เราสามารถใช้มือถือ หรือแท็บเล็ต Android ควบคุมเม้าส์ พิมพ์ และควบคุมคอมพิวเตอร์ได้เลย ในขณะที่หน้าจอคอมจะแสดงแถบด้านล่างว่าถูกควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนแล้วซึ่งสามารถตัดการเชื่อมต่อระยะไกลได้ด้วยคลิกstop sharing ทั้งบนคอมของคุณหรือถ้าคุมผ่านแอพบนมือถือ android สามารถตัดเชื่อมต่อโดยกดปุ่มเมนูบนมือถือแล้วเลือก Disconnect

       คราวนี้คุณก็สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกลได้ด้วย แอพ Chrome Remote Desktop ทั้งบนคอมพิวเตอร์ และบนมือถือได้แล้ว

หากผู้อ่านสงสัยเกี่ยวกับวิธีการใช้โปรเเกรมหรืออย่ากจะศึกษาโปรแกรมนี้ให้มากขึ้นสามารถเรียนรู้ได้จากวิดีโอนี้

เเหล่งข้อมูลhttps://www.youtube.com/watch?v=9_jUum8fUdU

จากข้อมูลข้างต้นสรุปได้ว่า โปรแกรม Chrome Remote Desktop เป็นโปรแกรมที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานในด้านการควบคุมการใช้งานคอมพิวเตอร์ในระยะไกลด้วยมือถือนอกจากนี้โปรแกรมนี้ยังสามารถใช้คอมพิวเตอร์ของคนอื่นมาใช้งานหรือตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของเราได้แต่บุคคลนั้นจะต้องรู้รหัสของเราถึงจะสามารถเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ของเราได้ ซึ่งโปรแกรมนี้สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ระยะไกลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่งโปรแกรมนี้อาจจะดูยุ่งยากเกี่ยวกับการใช้งาน แต่หากผู้อ่านศึกษาอยjางละเอียดทำความเข้าใจกับการใช้งานโปรแกรมนี้ก็จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านเป็นอย่างมาก

แหล่งข้อมูล

รีวิว Chrome Remote Desktop ทางเลือก สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ TeamViewer. (2559). สืบค้น

           เมษายน 13, 2560, จาก https://www.youtube.com/watch?v=9_jUum8fUdU

Sanook channel 3. (2557). Chrome Remote Desktop ควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านด้วยมือถือหรือแท็บเล็ต. สืบค้น เมษายน 13, 2560, จาก http://bit.ly/2oBQg2S

หน้าไหว้หลังหลอก จุดบอดของมนุษย์!!!

หน้าไหว้หลังหลอก...จุดบอดของมนุษย์!!!

สุนิสา นิลมูล

หัวข้อบทความนี้เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว พบเจอและเห็นกันบ่อยในสังคมปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าคนบางคนที่เดินสวนทางกับเรายกมือไหว้เราแต่พอเราหันหลังให้มองไม่เห็นเขาแล้วเขาอาจจะด่าเราหรือนินทาเราลับหลังก็ได้นิสัยแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาเราจะพบในสังคมในปัจจุบันผู้อ่านอาจจะตั้งข้อสงสัยใช่ไหมคะว่า สำนวน “หน้าไหว้หลังหลอก” มีความหมายว่าอย่างไรมีที่มาจากอะไร ทำไมสำนวนนี้จึงถูกมองไปในด้านลบ จากที่ผู้เขียนได้ศึกษามา พจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถานพ.ศ. 2542 (2559: ย่อหน้า 1) ได้ให้ความหมายไว้ว่า “หน้าไหว้หลังหลอก” หมายถึง คนที่มีพฤติกรรมต่อหน้าเราอย่างหนึ่ง (ดี) แต่ลับหลังเรากลับทำอีกอย่างหนึ่ง (ไม่ดี) โดยทั่วไปคนเหล่านี้จะมีลักษณะที่เรียกว่าปากไม่ตรงกับใจผสมอยู่ด้วย

สำนวนนี้ ไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา (2537: 187) ได้อธิบายที่มาไว้ว่า สำนวน “หน้าไหว้หลังหลอก” เป็นสำนวนทีี่ใช้ในปัจจุบัน แต่ในสมัยโบราณจะใช้ว่า“ต่อหน้ามะพรับ ลับหลังตะโก” เป็นสำนวนเกี่ยวกับความประพฤติที่ใช้กันมานานแต่ปัจจุบันมีคนพูดน้อยลง กาญจนาคพันธุ์ ได้อธิบายที่มาของสำนวนนี้ไว้ว่า

   “มะพลับ” เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง และ “ตะโก” ก็เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง สำนวนนี้เอาชื่อต้นไม้ทั้งสองมาเปรียบเทียบทางเสียง คือ “มะพลับ” เอามาเทียบทางเสียง เท่ากับ “รับ” ส่วน “ตะโก” เอาคำ “โก” มาเทียบเท่ากับ “โกหก” ต่อหน้ามะพลับ หมายความว่า ต่อหน้าก็รับ “รับ”คือ ลับว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ลับหลังตะโก หมายความว่า พอลับหลังก็โกหกไม่ทำตามที่รับไว้”

    ปัจจุบันสำนวน “ต่อหน้ามะพลับ หลับหลังตะโก” มีคนพูดกันน้อยลง โดย ไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา (2537: 187) ให้เหตุผลว่า อาจจะเป็นเพราะ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายและที่มาของสำนวน ส่วนใหญ่มักจะใช้สำนวน“หน้าไหว้หลังหลอกแทน” เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่า หมายถึง ต่อหน้าไหว้ คือ ทำดีด้วย แต่หลับหลังหลอก คือ ไม่ทำอย่างที่พูด หรือนินทา ด่าว่า
ซึ่งสำนวนทั้งสองนี้จะมีความหมายเหมือนกัน ดังนี้

“ต่อหน้ามะพลับ หลับหลังตะโก” หมายถึง พูดกลับกลอก หลอกลวง ไม่ทำตามที่พูด หรือโกหกหลอกลวง ทำดีต่อหน้าลับหลังคิดร้าย

“หน้าไหว้หลังหลอก” หมายถึง ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง

   ผู้อ่านเห็นหรือไม่คะว่าคนประเภทนี้เป็นคนที่ไม่น่าคบหาซึ่งพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมานั้นไม่มีแม้กระทั้งความจริงใจต่อผู้อื่น ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีหรือไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอยู่ คนประเภทนี้ยังมีอยู่ในสังคมเราอีกมาก หากมองแค่ภายนอกเราอาจจะยังรู้นิสัยที่แท้จริง เราควรที่จะดูจากพฤติกรรมที่เขาแสดงออกแล้วใช้สติในการตัดสินคนประเภทนี้ 

     นอกจากนี้ในสังคมไทยในปัจจุบันยังมีการใช้สำนวนนี้กันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชี่ยวไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์หรือโซเชี่ยวต่างๆล้วนใช้สำนวน นี้แทนการพูดจากันตรงๆซึ่งจะเห็นได้จากข้อความที่บุคคลใช้โพสต์กันมากมายเหล่านี้

   ผู้อ่านจะเห็นได้ว่าสำนวนหน้าไหว้หลังหลอกนี้เป็นสำนวนที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา เราจะเป็นเหมือนสำนวนนี้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสติและความประพฤติที่เราจะทำว่าเราจะเลือกเป็นคนดีหรือคนไม่ดีหากเราเลือกที่จะเป็นผู้ที่มีจิตใจดีหวังดีต่อผู้อื่นย่อมจะทำให้ชีวิตของเรานั้นเจอแต่ความสุขและคนที่จริงใจแก่เราดังคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวไว้ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง นอกจากนี้ การศึกษาที่มาและสำนวนของไทยเรานั้น ยังทำให้ทราบถึงความประพฤติของมนุษย์ นอกจากนี้สำนวนยังทำให้เราเข้าใจสภาพความเป็นจริงของสังคมในยุคสมัยนั้นๆความหมายของสำนวนยังทำให้เกิดความคิดสุขุมลุ่มลึกมีสติปัญญาทั้งหมดนี้ยังสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมในด้านของนิสัยและพฤติกรรมของคนในสังคมสำนวนจึงเป็นถ้อยคำที่มีคุณค่าทางภาษาอย่างยิ่ง สำนวนคือภาษา และภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทย จึงควรแก่การอนุรักษ์ไว้สืบไป

เอกสารอ้างอิง

ไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา. (2537). การเปลี่ยนแปลงถ้อยคำและความหมายของสำนวนไทย (พิมพ์ครั้งที่ 4).

กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. (2559). หน้าไหว้หลังหลอก. สืบค้น พฤษจิกายน 10, 2559,

จาก http://bit.ly/2fzO9s4